วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2560

เกาะลันตา(กระบี่)

เที่ยวเพลิน ๆ รับลมทะเลเย็น ๆ ณ เกาะลันตา

เกาะลันตา

เกาะลันตา


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ททท. และ park.dnp.go.th

          เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเกาะที่นักเดินทางผู้หลงใหลความงามของท้องทะเลอยากไปสัมผัสกับความงาม ที่แฝงไว้ด้วยสงบและเรียบง่าย ใช่แล้ว! เรากำลังเอ่ยถึง "เกาะลันตา" เกาะที่หลบซ่อนสายตาผู้คนอยู่ท่ามกลางท้องทะเลสีคราม และวันนี้กระปุกท่องเที่ยวก็ขอพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับ เกาะลันตา ให้มากขึ้น ไปดูสิว่ามีอะไรให้ไปเที่ยวบ้าง 

          เกาะลันตา เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดกระบี่ โดยเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีผู้คนอาศัยต่อเนื่องมายาวนานกว่าร้อยปี ประกอบด้วย เกาะลันตาใหญ่ และ เกาะลันตาน้อย แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่บน เกาะลันตาใหญ่ ขณะที่ เกาะลันตาน้อย เป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอเกาะลันตา ด้วยระยะทางที่ห่างไกลจากแผ่นดิน เกาะลันตาจึงยังคงความสวยงามของหาดทรายและน้ำทะเลสะอาด อีกทั้งยังมีวิถีชีวิตของชาวเกาะดั้งเดิม ที่มีทั้งชาวไทยพุทธ ชาวไทยจีน ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยใหม่ (ชาวเล) อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ผสานกับความเจริญทางด้านหัวเกาะแถบท่าเรือและชายหาดฝั่งตะวันตก ซึ่งคึกคักด้วยนักท่องเที่ยว การมาเยือนเกาะลันตาจึงได้เที่ยวหลายบรรยากาศในคราวเดียวกัน



เกาะลันตา

ประวัติ

          "ลันตา" เป็นชื่อเกาะขนาดใหญ่ มีรูปร่างเรียวยาว พื้นที่ 472 ตารางกิโลเมตร อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ชื่อ "ลันตา" สันนิษฐานว่าเพี้ยนมาจากคำว่า "ลันตาส" ซึ่งเป็นภาษาชวา แปลว่า ที่ย่างปลา เพราะในอดีตเกาะใหญ่แห่งนี้เป็นที่ที่ชาวเรือชวามักมาหยุดพักและย่างปลาเป็นอาหาร แล้วต่อมาเกาะนี้ก็เปลี่ยนฐานะมาเป็นเมืองท่าที่ชาวจีนและชาวอาหรับผู้แล่นเรือค้าขายในน่านน้ำภูเก็ต ปีนัง สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย แวะขึ้นมาพักและทำการค้าขาย จนในที่สุดก็กลายเป็นชุมชนคึกคัก 

          สำหรับ เกาะลันตา ประกอบด้วย เกาะลันตาใหญ่ และ เกาะลันตาน้อย โดยมีเกาะกลางคั่นอยู่ระหว่าง 2 เกาะนี้ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมดอยู่บน เกาะลันตาใหญ่ มียาวประมาณ 30 กิโลเมตร กว้างประมาณ 6 กิโลเมตร โดดเด่นด้วยชายหาดยาวเรียงรายต่อเนื่องกันถึง 13 หาดทางฝั่งตะวันตก มีทั้งหาดหินและหาดทราย เพียบพร้อมด้วยที่พักหลากสไตล์ หลายราคา ส่วนทางฝั่งตะวันออกคือ ชุมชนโบราณ ชื่อบ้านศรีรายา ซึ่งตั้งมากว่าร้อยปี มีเสน่ห์ด้วยเรือนแถวไม้หน้าแคบที่ยื่นยาวลึกออกไปในทะเล และวิถีชีวิตสงบงามของชาวไทย-จีน ชาวไทย-มุสลิม ที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข

          ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะบน เกาะลันตาใหญ่ ยังมีจุดเด่นอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาตั้งอยู่ที่แหลมโตนด ตรงปลายเกาะ เป็นพื้นที่ที่สมบูรณ์ด้วยผืนป่าดงดิบ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ และที่โดดเด่นที่สุดคือ ประภาคารสีขาว ซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเกาะลันตา 

          และอีกจุดเด่นหนึ่งคือ หมู่บ้านชาวเล หรือชาวไทยใหม่ ชื่อบ้านสังกาอู้ อยู่ทางตอนใต้ของเกาะ เป็นชุมชนของชาวเลเผ่าลูโมะลาโว้ย ที่คนไทยภาคกลางเรียกว่า อูรักลาโว้ย พวกเขาตั้งถิ่นฐานบนเกาะลันตามานานหลายชั่วอายุคน อีกทั้งเกาะลันตายังเปรียบได้ดั่งเมืองหลวงของชาวเล ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นบริษัททัวร์ ร้านดำน้ำ ธนาคาร ร้านอาหาร ร้านบริการอินเทอร์เน็ต ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ มีเพียบพร้อมอยู่ที่บ้านศาลาด่าน

เกาะลันตา

ดอกไม้ประจำชาติฝรั่งเศส

ดอกไม้ประจำชาติฝรั่งเศส

ดอกไอริส Les Iris

       ดอกไอริส (Iris) เป็นดอกไม้แห่งข่าวสาร เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ ความรักบริสุทธิ์ กตัญญู จึงมักจัดเป็นพุ่มเพื่อต้อนรับแขก ที่มาหา ปัจจุบันนิยมใช้ดอกไอริสเพื่อแสดงว่าผู้ให้นั้น มีข่าวสารบางอย่างจากหัวใจที่อยากจะบอกให้ผู้รับได้ล่วงรู้  เช่นประโยคที่จะบอก ในภาษาดอกไม้คือ ประโยคนี้ " ฉันมีอะไรจะบอกเธอ " โรแมนติกใช่มั้ยล่ะแต่อีกนัยยะของภาษาดอกไม้ ก็คือ1. ใช้ในการแอบบอกรักที่หลบซ่อน 2. ดอกไอริสนี้ ยังสามารถมอบให้ แก่คนรักเก่า เพื่อสื่อความว่าต้องการให้ ความรักนั้นปะทุเชื้อไฟขึ้นอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ ดอกไอริส ยังเป็น เครื่องหมายของความรัก บริสุทธิ์ เนื่องจากเป็น ดอกไม้ประจำตัวของ เทพบุตร กาเบรียล 1 ใน 7 อาร์ค แองเจิ้ล เทวาชั้นสูง ผู้ที่มาแจ้งข่าวครั้งที่ 2 ทำให้พระเยซู คืนพระชนม์ชีพ นั่นเอง ถ้าอยากจะเข้าใจภาษาของดอกไม้มากกว่านี้ ลองทำตัวเป็นคนในสมัยวิคตอเรียดูสิ คลาสสิคมากๆ ไม่ใช่เรือ่งไร้สาระแน่นอน บางคนที่ว่าว่ามันไร้สาระ เพราะไม่รู้ว่า ความจริงแล้วการที่เรารู้อะไรที่ลึกซึ้ง ก็จะรู้ว่าเจตจำนงที่แท้จริง กลอุบายที่คนโบราณใช้ มันช่างแยบยล ดอกไอริสมีถิ่นกำเนิดในแถบแอฟริกาใต้ และ แถบตะวันออก ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เรื่องเล่าของดอกไอริสชื่อของดอกไอริส (หรือ “อิริส” (Iris) ในภาษาฝรั่งเศส) นั้นมาจากนามของเทพี Iris ในเทพนิยายกรีก ซึ่งเป็นผู้นำสารของเทพเจ้าจากเทือกเขาโอลิมปัสลงมายังโลกมนุษย์ โดยเดินทางลงมาตามสายรุ้ง ชื่อไอริสถูกนำมาตั้งชื่อดอกไม้ชนิดนี้ตั้งแต่ยุคกลาง ราวคริสตศตวรรษที่ 13 สันนิษฐานว่าคงเป็นเพราะสีสันสดใสของดอกไอริสที่ทำให้นึกถึงสีรุ้งดอกไอริสมีความสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์และราชวงศ์ของฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก คนทั่วไปอาจจะนึกว่าสัญลักษณ์ของกษัตริย์และราชวงศ์ฝรั่งเศสนั้นคือดอกลิลลี่ เพราะตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์มีชื่อเรียกว่า la fleur de lys ซึ่งแปลว่าดอกลิลลี่แต่แท้ที่จริงแล้วที่มาของ la fleur de lys นั้นไม่ใช่ดอกลิลลี่ แต่เป็นดอกไอริสน้ำสีเหลืองมีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า สัญลักษณ์รูปดอกไอริส (ซึ่งต่อมากลายเป็น la fleur de lys) ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์เป็นครั้งแรกในสมัยกษัตริย์โกลวีส์ (Clovis) แห่งราชวงศ์เมโรแว็งเฌียง (Mérovingien) ซึ่งเป็นกษัตริย์ของชนเผ่าฟร็องก์ (les Francs) บรรพบุรุษของชาวฝรั่งเศสและเยอรมันเมื่อครั้งที่โกลวีส์และกองทัพฟร็องก์ถูกพวกเผ่าวิซิกอต (les Visigoths) ไล่โจมตีมาจนถึงริมฝั่งแม่น้ำไรน์ โกลวีส์ซึ่งกำลังจะจนมุมอยู่แล้วสังเกตเห็นกอดอกไอริสสีเหลืองบานอยู่กลางแม่น้ำ จึงรู้ว่าบริเวณนั้นน้ำไม่ลึกและสั่งให้กองทัพของพระองค์ข้ามน้ำไปได้เพื่อรำลึกถึงพระคุณของดอกไอริสที่ชี้ทางรอดแก่พระองค์และกองทัพ โกลวีส์จึงนำสัญลักษณ์ดอกไอริสสีเหลืองมาใช้แทนรูปคางคกที่อยู่บนตราสัญลักษณ์เดิมของพระองค์บางตำนานก็เล่าว่าตรา la fleur de lys นั้นมีที่มาจากดอกไม้สีเหลืองทองที่เทวดามอบให้แก่โกลวีส์ในวันที่โกลวีส์เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์คาธอลิค เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความบริสุทธิ์หรือการล้างบาป กลีบทั้งสามของดอกไม้ในตราสัญลักษณ์หมายถึง พระบิดา พระบุตร และพระจิตอีกเรื่องหนึ่งเล่าว่า ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 (Louis VII) ราวปี ค.ศ. 1147 เมื่อครั้งจะกรีฑาทัพไปรบในสงครามครูเสดเป็นครั้งที่สองนั้น ได้มีการใช้ตราสัญลักษณ์รูปดอกไอริสนี้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ จึงเรียกตรานี้ว่า “fleur de Louis” หมายถึง “ดอกไม้ของพระเจ้าหลุยส์” ซึ่งต่อมาเพี้ยนเสียงไปเป็น “fleur de Luis” และ “fleur de Luce” (ซึ่งแปลว่า “ดอกไม้แห่งแสงสว่าง”) และกลายเป็น “fleur de lys” ในที่สุด และต่อมาสัญลักษณ์นี้ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ฝรั่งเศสมาโดยตลอด 

วันศุกร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2560

การทำเครปฝรั่งเศส



เครปอาหารว่าง แบบหนักท้อง อิ่มอร่อยสไตล์ฝรั่งเศส

 เครปอาหารว่าง แบบหนักท้อง อิ่มอร่อยสไตล์ฝรั่งเศส

 ซึ่งเครปสูตรที่เรานำมาจากนิตยสารแม่บ้าน ที่ใช้เสิร์ฟเป็นอาหารคาวสูตรนี้ ใช้วิธีการทำเดียวกับเครปของหวาน แต่จะหนากว่าและใช้เวลาในการจี่ที่นานกว่า เพื่อให้แป้งเป็นสีน้ำตาลเข้มสอดไส้ไข่ หรือซอส และชีส เห็นจากภาพแล้วก็น่ากินไม่เบาเลยล่ะ ไปดูวิธีทำกันเลย

ส่วนผสม เครปอาหารว่าง


      ◇​ ​ไข่ไก่ 2 ฟอง
      ◇​ ​นมสด 2 ถ้วยตวง
      ◇​ ​แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
      ◇​ ​เนยสดชนิดเค็มละลาย 2 ถ้วยตวง
      ◇​ ​เกลือป่นละเอียด 1 หยิบมือ
      ◇​ ​แฮมรมควันอบน้ำผึ้ง 150 กรัม
      ◇​ ​สวิสชีส (Swiss Cheese) ขูดละเอียด 100 กรัม
      ◇​ ​ไข่แดง 8 ฟอง
      ◇​ ​เนยสดชนิดเค็มสำหรับทากระทะ

วิธีทำเครป

 เครปอาหารว่าง แบบหนักท้อง อิ่มอร่อยสไตล์ฝรั่งเศส  







Step 1 : นำแป้งสาลี เกลือป่น ใส่ในชามผสมให้เข้ากัน ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป ใช้ส้อมคนให้เข้ากัน เติมเนยสด และค่อย ๆ ใส่นมสดลงไปคนจนละลายและเนื้อเนียนข้นดี นำไปกรองแล้วพักไว้

           Step 2 : ตั้งกระทะเคลือบใบใหญ่ให้ร้อน ทาเนยสดให้ทั่ว ใช้กระดาษทิชชูอเนกประสงค์เช็ดให้แห้ง ใช้กระบวยตักแป้งเครปเทตรงกลางกระทะแล้วกลอกกระทะเอียงเป็นวงกลมให้แป้งเสมอกันเต็มกระทะ ตั้งไฟร้อนปานกลาง จนขอบแป้งเริ่มร่อน

           Step 3 : วางไข่แดงลงกลางแผ่นเครป แล้วใช้พายเกลี่ยไข่แดงให้ แตกและทาให้ทั่วแผ่น

           Step 4 : โรย Swiss Cheese ให้ทั่วแผ่นเครป แล้วฉีกแฮมเป็นเส้นวางโดยรอบ

           Step 5 : ใส่ไข่แดงลงตรงกลางเครป ใช้พายพับขอบเข้าหาตรงกลางทั้ง 4 ด้านเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส เว้นที่ตรงกลางที่มีไข่แดงอยู่ ยกออกจากกระทะแล้วเสิร์ฟทันที

           ลองได้สูตรเครปอาหารว่างน่ากิน ๆ แบบนี้แล้ว เวลามีแขกมาเยี่ยมบ้านก็ลองทำเมนูนี้เสิร์ฟดู ก็น่าจะดีนะคะ ดูหรูหราไฮโซทีเดียว อิ่มอร่อยอีกด้วย





วันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2560

ข่าวฝรั่งเศส

ชาวปารีสผวา! สัญญาณเตือนภัยใกล้หอไอเฟลทำงาน



ชาวปารีสแตกตื่นหลังสัญาณเตือนภัยใกล้หอไอเฟลส่งสัญญาณเตือน – ตำรวจรวบผู้บุกรุก 1 ราย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ประชาชนในเมืองปารีสแตกตื่นอีกครั้ง หลังเสียงสัญญาณเตือนภัยใกล้หอไอเฟลดังขึ้น เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ ก่อนจะรายงานว่า ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย และเหตุการณ์สงบลงแล้ว พร้อมบอกว่าชายผู้บุกรุกรายดังกล่าวไม่มีอาวุธ
โดยจะสอบสวนเกี่ยวกับแรงจูงใจของผู้บุกรุกและจะแจ้งรายละเอียดในวันนี้ (2 กันยายน 2560) อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสเคยเกิดเหตุรุนแรงเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามอิรักและซีเรียยังออกตัวเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุด้วย
ที่มา… INN

วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศสคนปัจจุบัน

แอมานุแอล ฌ็อง-มีแชล เฟรเดริก มาครง
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

 (ฝรั่งเศส: Emmanuel Jean-Michel Frédéric Macron; เกิดวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2520)
เป็นนักการเมือง อดีตข้าราชการพลเรือนระดับสูง และอดีตวาณิชธนกรชาวฝรั่งเศส ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสและผู้ปกครองร่วมแห่งอันดอร์รา
มาครงเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ผลจากการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันที่ 23 เมษายน ปรากฏว่า เขามีคะแนนนำมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยมารีน เลอ แปน ที่มีคะแนนตามมาเป็นอันดับสอง มาครงได้ลงแข่งขันกับเลอ แปน ในการเลือกตั้งรอบที่สองเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม และได้รับชัยชนะอย่างขาดลอย ณ อายุ 39 ปี เขากลายเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสและกลายเป็นประมุขแห่งรัฐฝรั่งเศสที่มีอายุน้อยที่สุดนับตั้งแต่สมัยนโปเลียน

แคว้นทั้ง22ของฝรั่งเศส





แคว้นทั้ง22ของฝรั่งเศส

 แต่เดิมประเทศฝรั่งเศสมีชนดั้งเดิมมายึดครองอยู่คือชาว "Gaulois"พวกเขาได้เรียกประเทศฝรั่งเศสว่า LE GAULE
  1. ILe-de-France ที่ตั้งอยู่ที่ Bassin Parisien อาหารประจำแคว้นได้แก่ เนย,สถานที่สำคัญของแคว้นได้แก่ Versailles ราชวังของพระเจ้าLouisXIV ปารีสเป็นเมืองหลวงของฝรั่งเศส 
  2.  Centre อยู่ทางทิศตะวันออกของแคว้น Pays de Loire เป็นเมืองหลวงประจำแคว้นผลผลิตที่สำคัญ ได้แก่ พืช,ผักสวนครัว,องุ่น,ข้าวโพด
  3. Pays de Loire แคว้นนี้มีชายแดนทางตะวันตกติดกับแคว้น Bretagne ทิศตะวันออกติดกับแคว้น Centre ทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกับที่ราบสูง มีเมืองหลวงชื่อว่า Nantes ผลผลิตที่สำคัญได้แก่ ข้าวสาลี,ข้าวโพด,ไร่องุ่น ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญคือเหล้าองุ่นขาว แคว้นนี้มีปราสาทสวยงามมากมายที่สุดในฝรั่งเศส
  4. Bretagne เป็นแคว้นที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นไปในมหาสมุทรแอตแลนติค เป็นแคว้นเดียวในฝรั่งเศสที่ไม่มีการผลิตเหล้าองุ่น เนื่องจากสภาพอากาศไม่เหมาะสมที่จะปลูกองุ่น แต่มีการประมงเป็นหลักเพราะติดทะเล เมืองหลวงของแคว้นมีชื่อว่า Rennes ผลผลิตที่สำคัญได้แก่ พืชไร่ที่เราเรียกว่า le cidre ขนมที่ขึ้นชื่อคือ Crepes เมืองท่าที่สำคัญมีชื่อว่า Brest ส่วน Saint-Malo เป็นเมืองเก่าแก่ของแคว้น
  5. La Basse-Normandieเป็นแคว้นที่มีชายฝั่งทะเลตะวันตกติดกับมหาสมุทรแอตแลนติค ชายฝั่งทางเหนือติดกับอ่าว Manche ทางตะวันออกเฉียงใต้ติดกับแคว้น Bretagne และทางทิศตะวันออกติดกับแคว้น Haute-Normandie เมืองหลวงประจำแคว้นชื่อ Caen ผลผลิตที่สำคัญคือ ข้าวสาลี,นม,การประมง สถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อ Le Mont-Saint-Michel เป็นโบสถ์โบราณเก่าแก่สถาปัตแบบโรมัน สร้างอยู่บนโขดหินใกล้ทะเล
  6. La Haute-Normandie มีเขตติดต่อกับแคว้น Basse-Normandie มีการผลิตเนยชั้นนำคุณภาพ และนำแอปเปิ้ลที่มีคุณภาพรสชาติอร่อย เมืองหลวงประจำแคว้นชื่อ Rouen
  7. Picardie เป็นแคว้นที่ค่อนไปทางเหนือของฝรั่งเศส มีเมือง Amiens เป็นเมืองหลวง ผลผลิตสำคัญคือ ข้าวสาลี,การเลี้ยงสัตว์,การปลูกหัวผักกาดหวาน
  8. Nord-Pas de Calais แคว้นนี้ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศฝรั่งเศส มีเมือง Lille เป็นเมืองหลวงประจำแคว้น เมืองนี้เป็นเมืองแรกที่มีรถไฟใต้ดินวิ่งป็นเมืองแรกในฝรั่งเศส แคว้นนี้ผลิตเบียร์อย่างมีคุณภาพ เนื่องจากภูมิประเทศเหมาะกับการปลูกข้าวสาลีและข้าวบาร์เล่ย์
  9. Le Champagne แคว้นนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแคว้น Picardie เมืองหลวงประจำแคว้นชื่อ Chalons-sur-Marne ผลผลิตสำคัญได้แก่ องุ่น,ข้าวสาลี,การเลี้ยงสัตว์ สถานที่สำคัญประจำแคว้นนี้คือ" โบสถ์เมือง Reims "ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมGothique
  10. Lorraine ที่ตั้งของแคว้นนี้อยู่ทางชายแดนประเทศเบลเยี่ยม,ประเทศลักเซมเบอร์กและประเทศเยอรมัน เมืองหลวงของแคว้นชื่อ Nancy ผลผลิตที่สำคัญได้แก่ องุ่น,ข้าวสาลีและการเลี้ยงสัตว์
  11. Alsace เป็นแคว้นที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแคว้น Lorraine มีเมืองหลวงชื่อ Strasbourg ผลผลิตที่สำคัญได้แก่ ข้างสาลี,องุ่น,ข้าวโพด,ยาสูบ เครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงประจำแคว้นได้แก่ เหล้าองุ่นขาวคุฌภาพเยี่ยม
  12. Franche-Comte แคว้นนี้ตั้งอยู่ระหว่างแคว้น Bourgogne และประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมืองหลวงชื่อว่า Besacon ผลผลิตสำคัญได้แก่ ข้าวสาลี,ขนมปัง,เครื่องเทศ นาฬิกาชั้นนำมักจะผลิตที่นี้เป็นสินค้าส่งออก อาหารดังประจำแคว้นเนื่องจากว่าแคว้นนี้ผลิตเบียร์ได้มากจึงมีเบียร์คุณภาพ,เนยคุณภาพดี
  13. La Bourgogne ตั้งอยู่ทางใต้ของแคว้น Champagne, อยู่ทางตะวันออกของ Pays de Loire ทางทิศตะวันตกของ Franche-Comte และทิศเหนือของแคว้น Rhone-Alpes เมืองหลวงชื่อ Dijon ผลผลิตสำคัญได้แก่ ข้าวสาลี,นม,เหล้าองุ่น อาหารดังประจำแคว้นมีชื่อว่า ไก่อบเหล้า,หอยทากอบ เหล้าองุ่นและเหล้าชนิดอื่นก็มีชื่อเสียงเช่นเดียวกันสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญคือ พระราชวังของดยุ๊ก
  14. Rhone-Alpes ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแคว้น Bourgogne และ Franche-comte เมืองหลวงมีชื่อว่า Lyon ผลผลิตที่สำคัญได้แก่ องุ่น,การเลี้ยงสัตว์,ข้าวสาลี,ข้าวโพด
  15. L'Auvergne เป็นแคว้นที่มีภูเขาไฟ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของแคว้น Limousin ทางทิศใต้ของแคว้น Bourgogne เมืองหลวงของแคว้นชื่อ Clermont-Ferrand ผลผลิตสำคัญได้แก่ ข้าวสาลี,ข้าวโพด,ข้าวบาร์เลย์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญได้แก่ โบสถ์ Notre-Dame
  16. Limousin เป็นแคว้นที่มีการเลี้ยงแกะ ทางทิศตะวันตกของแคว้นเป็นที่ราบสูงกว้างใหญ่ ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขา เมืองหลวงชื่อ Limoges ผลผลิตสำคัญประจำแคว้นได้แก่ การเลี้ยงสัตว์ประเภทวัว แพะ แกะ สินค้าประจำแคว้นได้แก่ เครื่องปั้นดินเผา,เครื่องเคลือบลายคราม
  17. Poitou-Charentes แคว้นนี้อยู่ทางทิศตะวันตกของแคว้น Limousin อยู่ทางทิศใต้ของแคว้น Centre เมืองหลวงของแคว้นชื่อ Poitiers สินค้าประจำแคว้นได้แก่ ข้าวสาลี,ข้าวโพด,การเลี้ยงสัตว์,องุ่น,เหล้า
  18. Aquitaine เป็นแคว้นที่ตั้งอยู่มีชายฝั่งออกติดกับแนวมหาสมุทรแอตแลนติค เมืองหลวงชื่อ Bordeaux สินค้าของแคว้นคือ องุ่น,ยาสูบ,ข้าวสาลี,ข้าวโพด,การเลี้ยงสัตว์ และผลิตเหล้าคุณภาพดีมีลูกพรุนรสชาติดีนิยมกันมาก
  19. Midi-Pyrenees ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแคว้น Aquitain และอยู่ทางตอนใต้ของแคว้น Auverne เมืองหลวงชื่อ Toulouse ซึ่งแคว้นนี้มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่าเป็นเมืองที่มีการผลิตเครื่องบิน ผลผลิตที่สำคัญของแคว้นได้แก่ เนย,เนยแข็ง
  20. Lanquedoc-Roussillon เป็นแคว้นที่มีชายแดนติดต่อกับแคว้น Provence ทางตอนใต้ติดกับทะเลสาป เมืองหลวงชื่อ Montpellier ผลผลิตสำคัญประจำแคว้นคือ องุ่น,เหล้าไวน์ ,พืชผักสวนครัว,เหล้า สถานที่สำคัญได้แก่ Site เป็นเมืองท่าสำคัญ,เมือง Agen เป็นเมืองตากอากาศ
  21. Provence-Cote d'Azur ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและชายแดนติดกัยอิตาลี เมืองหลวงของแคว้นชื่อ Marseille ผลผลิตที่สำคัญคือการปลูกดอก lavande ,การปลูกไร่องุ่น,การเพาะปลูกพืชผักสวนครัว
  22. Corse แคว้นนี้ลักษณะเป็นเกาะอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนใต้ของเมืองนีช เมืองหลวงชื่อ Ajaccio ผลผลิตสำคัญได้แก่ ลูกเกาลัด,องุ่น,ผลไม้,ผลิตภัณฑ์เนื้อสุกร,เนยแข็งจากนมแกะ,เหล้าองุ่นแดงและชมพู ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งเด่นของแคว้นCorse

 

วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2560

วัฒนธรรมการกินของชาวฝรั่งเศส

วัฒนธรรมการกินของชาวฝรั่งเศส

À TABLE – อาหารพร้อมแล้ว
ที่ฝรั่งเศส เวลาเราพูดว่า à table อา ตาเบลอ  นั่นหมายถึงอาหารพร้อมแล้ว  ให้มานั่งที่โต๊ะและเริ่มรับประทานอาหารได้ว่าแต่ทำไมการทานอาหารพร้อมหน้ากันถึงสำคัญนักสำหรับคนฝรั่งเศส?  และทำไมเขาจึงพิถีพิถันกับอาหารมากกว่าชาติอื่นๆ?
ในศตวรรษที่ 18 เราเรียกยุคนี้ว่ายุค Enlightenment นั่นหมายถึงศิลปะวิทยาการรวมถึงศาสตร์ความรู้ต่าง  ๆ รุ่งเรือง  ถ้ายังจำกันได้  ศตวรรษที่ 17 ของฝรั่งเศสนั้นบอบช้ำด้วยลัทธิAbsolutism หรือการเผด็จอำนาจไว้ที่กษัตริย์เพียงพระองค์เดียว  ชาวฝรั่งเศสจึงบอกลาความเชื่อเดิม ๆ ฐานะกษัตริย์ในศตวรรษที่ 18 นั้นยังคงมีอยู่และศูนย์สิ้นไปในที่สุด  เราจะเห็นได้ว่าความเคลื่อนไหวทางการเมือง  และการประยุกต์ศิลปะวิทยาการต่าง ๆ จะขาดการวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้  จึงเริ่มที่โต๊ะอาหาร  ที่มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันด้านการเมือง  ดังนั้นขนบบนโต๊ะอาหารของฝรั่งเศสจึงสำคัญมาก  รวมถึงวัฒนธรรมการกินที่ถือเป็นศิลปะที่ถูกพัฒนาขึ้นในศตวรรษนี้ด้วย

 
         ในปัจจุบันขนบบนโต๊ะอาหารก็ยังเป็นที่นิยมแพร่หลาย  ถึงแม้ว่าสภาพสังคมที่เร่งรีบทุกวันนี้ทำให้คนฝรั่งเศสรุ่นใหม่ๆ รับวัฒนธรรมอเมริกามาบ้าง  (Fast food)  แต่หลายคนก็ยังพยายามรักษาขนบนี้ไว้
เมื่อคุณแม่ตะโกนว่า à table คุณพ่อและลูก ๆ จะมานั่งพร้อมหน้าพร้อมตา  พูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมือง  หรือเล่าปัญหาของแต่ละคน  เราเริ่มเสิร์ฟสลัดใส่จานแต่ละคน  เมื่อเราทานสลัดเสร็จ  คนฝรั่งเศสนิยมใช้ขนมปังบาแก๊ทเช็ดน้ำสลัดที่เหลือ  และใช้จานเดิมในการเสิร์ฟอาหารจานหลัก  ซึ่งจะเน้นไปที่โปรตีนจากเนื้อสัตว์  จากนั้นเราก็จะรับประทานชีส (Fromage)  การตัดชีสนั้นก็สำคัญ  เราต้องตัดในแนวที่ทำให้ทุกคนได้ทานผิวชีสด้วย   และจบด้วยของหวาน  ซึ่งอาจเป็นโยเกิร์ต  หรือขนมหวานต่าง ๆ เช่น Crème brûlée
เห็นไหมคะว่ากว่าจะใช้เวลาทานอาหารเสร็จนั้นนานมากทีเดียว  ทำให้ครอบครัวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน  ก่อนที่จะแยกย้ายไปทำธุระของตัวเอง  ชาวฝรั่งเศสจึงนิยมกินจัดเต็มแบบนี้ในช่วงมื้อเย็นเท่านั้นค่ะ อีกอย่าง  การรักษาขนบการรับประทานแบบนี้ทำให้ได้รับสารอาหารครบทุกหมู่ค่ะ

วัฒนธรรม ในประเทศฝรั่งเศสและสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ

วัฒนธรรม ในประเทศฝรั่งเศสและสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ


ชาวฝรั่งเศสมีวัฒนธรรมการนอนกลางวัน จึงส่งผลให้ประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศสชอบนอนกลางวันตามไปด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนลึกของวัฒนธรรม คล้ายคลึงกับของอังกฤษและอิตาลีอยู่แล้ว ไม่สามารถแบ่งได้ชัดเจนเด่นชัด เช่น การจับมือ ภาษา เป็นต้น
สิ่งที่ควรทำ – ไม่ควรทำ
1.คุณสามารถกล่าวทักทายว่าบงชู (Bonjour) ซึ่งหมายถึงสวัสดีตอนเช้า
หรือบงซัว (Bonsoir) ที่หมายถึงสวัสดีตอนเย็น
กล่าวลาเมื่อจะจากไปด้วยคำว่า โอ”เครอ”วัว (Au revoir)  ที่แปลว่า ลาก่อน
และกล่าวขอบคุณว่า แม็กซิ (Merci) ได้
Bonjour in France
2. วิธีทักทายสำหรับคนที่รู้จักกันนั้นคือการแลกจูบแก้มซึ่งกันและกัน ไม่ว่าคู่ทักทายของคุณจะเป็นหญิงหรือชาย ตามงานพิธีต่างๆ ชาวฝรั่งเศสใช้วิธีชนแก้มกันทั้งสองข้าง (la bise) ว่ากันว่าชาวปารีสนิยมแนบแก้มกันถึง 4 ครั้ง ถ้าเป็นเมืองนอกเขตปารีสทำเพียง 2 ครั้ง
Bise bise
3. เมื่อไปรับประทานอาหารตามภัตราคารอย่าตะโกนเรียกบริกรว่า”การ์ซ็อง (garçon)” ที่ตรงกันกับภาษาอังกฤษว่า boy ซึ่งในภาษาฝรั่งเศสถือว่าไม่ สุภาพ ควรเรียกว่าเมอซิเออร์ และกล่าวคำว่า ซิล วู เปล ซึ่งแปลว่ากรุณา เวลาสั่งอาหารหรือขออะไรเพิ่มเติมจึงถือว่าสุภาพและควรถอดหมวก เสื้อคลุม โอเวอร์โค๊ดหรือแจ้กเก็ต เพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่ก่อนทุกครั้ง
Boy = Garcon
4. สนามหญ้าในฝรั่งเศสมีไว้ให้ดูและชื่นชมความเขียวชอุ่ม ห้ามแตะต้องเด็ดขาด ยกเว้นตามสนามหญ้าที่เปิดเป็นสาธารณะ หากคุณละเมิดกฏเข้าไปในสนามหญ้าซึ่งมีป้าย pelouse interdite แปลว่า สนามหญ้าห้ามเข้า กำกับอยู่ ถือว่าคุณทำผิดกฏหมาย
pelouse interdite - garden permitt
5. เมื่อชาวฝรั่งเศสต้องการโบกมือลาเขาจะยกมือพร้อมกับขยับนิ้วขึ้นลง ๆ
Say Good bye
6. รถแท็กซี่ในฝรั่งเศสนั่งได้ 3 คน เฉพาะที่ตรงด้านหลังคนขับเท่านั้นที่นั่งด้านขวามือข้างหน้าคู่กับคนขับ นั้น มักไว้ให้เป็นที่นั่งของสัตว์เลี้ยง
Taxi in Paris

วันพุธที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2560

วีซ่าสำหรับประเทศฝรั่งเศส





วีซ่าสำหรับประเทศฝรั่งเศส


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
***แผนกวีซ่าขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าธรรมเนียมแก่ผู้ร้องขอ ไม่ว่าวีซ่าจะได้รับการอนุมัติหรือไม่ แผนกวีซ่าอนุญาตเฉพาะผู้ยื่นคำร้องเท่านั้นสำหรับการเข้ามายื่นคำขอวีซ่า ยกเว้นกรณี ผู้เยาว์ คู่สมรสชาวฝรั่งเศสและคู่สมรสชาวยุโรป รวมทั้งผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ อนุญาตให้ผู้ติดตามเข้ามาได้
ระยะเวลาในการดำเนินการขอวีซ่าประเภทต่างๆ ดังต่อไปนี้

-  วีซ่าท่องเที่ยว และวีซ่าเยี่ยมเยียน ประมาณ 7 วันทำการ

-  วีซ่าธุรกิจ ประมาณ 3 วันทำการ

-  วีซ่าราชการ ยื่นโดยไม่ต้องนัดหมาย ประมาณ 5 วันทำการนับตั้งแต่วันที่ยื่นคำร้องถึงวันที่คืนหนังสือเดินทาง
สำหรับวีซ่าระยะยาว แนะนำให้ยื่นคำร้องล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือนก่อนวันเดินทาง ระยะเวลาในการดำเนินเรื่องขอวีซ่าระยะยาวอาจใช้เวลาตั้งแต่ 10 วันถึง 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาในการดำเนินการขอวีซ่าอาจจะนานกว่าที่แจ้งไว้ข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณคำร้องที่รับเข้ามา
  • คุณจำเป็นต้องขอวีซ่าหรือไม่

ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศส
  • ท่านต้องตรวจสอบก่อนยื่นคำร้องขอวีซ่า

1. หนังสือเดินทางของท่านมีสถานะเป็นที่ยอมรับ และยังไม่หมดอายุ (หนังสือเดินทางจะต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 3 เดือน นับจากวันที่ท่านเดินทางออกจากเขตประเทศเชงเก้น และหนังสือเดินทางจะต้องมีอายุไม่เกิน 10 ปี นับจากวันที่ออก นอกจากนี้ จะต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า เพื่อตรวจลงตราวีซ่า)
2. ท่านมีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศไทย
ประกาศเลขที่ 2008-1176 วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2551
หัวข้อแรกได้ระบุไว้ว่า “ท่านจะต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าในประเทศที่ท่านมีถิ่นพำนักอยู่เท่านั้น ยกเว้นกรณีที่ท่านมีหลักฐาน และพิสูจน์ได้ว่าท่านไม่สามารถยื่นคำร้อง ณ ประเทศที่ท่านมีถิ่นพำนักอยู่ได้”
3. ท่านจะเดินทางไปยังประเทศฝรั่งเศสเพียงประเทศเดียวหรือเป็นประเทศหลัก
  • ท่านจะต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าที่ไหนและอย่างไร

ขอแนะนำให้ท่านยื่นคำร้องล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือนก่อนการเดินทาง และไม่น้อยกว่า 15 วันก่อนการเดินทาง ข้อควรระวัง ทางสถานทูตไม่สามารถรับรองได้ว่าคำร้องของท่านจะได้รับการพิจารณาก่อนวันเดินทาง
สถานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศสได้ให้สิทธิ์บริษัท TLScontact เป็นตัวแทนในการให้ข้อมูลและรับคำร้องในการยื่นขอวีซ่า
การยื่นคำร้องสามารถทำได้โดยการนัดหมายกับบริษัท TLScontact ห้องเลขที่ 12/1 ชั้น12 อาคารสาทรซิตี้ทาวเวอร์, 175 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120
ท่านสามารถค้นหาข้อมูลที่จำเป็น รายละเอียดเอกสารและการนัดหมายผ่านทางเว็บไซต์ https://fr.tlscontact.com/th/bkk/
ท่านสามารถลงทะเบียนผ่านระบบได้ที่ https://www.tlscontact.com/th2fr/login.php?
ศูนย์บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ของ TLScontact เปิดทำการระหว่างวันจันทร์ ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.30 นาฬิกา ที่หมายเลข 02 696 3888 ระบบบริการข้อมูลอัตโนมัติทางโทรศัพท์เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
การยื่นคำร้องผ่านทาง TLScontact สามารถตรวจสอบสถานะคำร้องของท่านผ่านทางเว็บไซต์และท่านจะได้รับแจ้งผ่านทางอีเมล หรือ SMS เมื่อหนังสือเดินทางของท่านถูกส่งกลับที่ TLScontact
ท่านที่ไม่ประสงค์ยื่นคำร้องกับบริษัท TLScontact สามารถยื่นคำร้องด้วยตนเองได้ที่สถานทูตฝรั่งเศสกรุงเทพฯ โดยผ่านการนัดหมายเท่านั้น ท่านสามารถทำการนัดหมายได้ที่หมายเลข 02 696 38 88 ระหว่างวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ถึง 16.30 น. และจะต้องลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของ TLScontact
โดยทั่วไปการรอการนัดหมายจะไม่เกิน 2 – 3 วัน ยกเว้นในช่วงเวลาที่มีผู้เดินทางเป็นจำนวนมาก (เช่น ระหว่างกุมภาพันธ์ ถึงเมษายน) การรอการนัดหมายอาจใช้เวลาถึง 2 อาทิตย์
TLScontact ได้รับสิทธิ์ในการรับยื่นคำร้องเท่านั้น แต่อำนาจหน้าที่ในการอนุมัติหรือปฏิเสธการออกวีซ่าขึ้นอยู่กับทางสถานทูตฯ
  • วีซ่าประเภทต่างๆ

ก) สำหรับวีซ่าไม่เกิน 90 วัน ต้องยื่นคำร้องวีซ่าระยะสั้น เรียกว่า “วีซ่าเช็งเก็น”
อ้างถึงข้อตกลงของสหภาพยุโรป (ว่าด้วยเรื่องของวีซ่า) จะออกวีซ่าให้ในกรณีวีซ่าท่องเที่ยว เยี่ยมครอบครัว เยี่ยมคนรู้จัก หรือธุรกิจ สำหรับการเดินทางสูงสุดไม่เกิน 90 วันในช่วงเวลา 6 เดือน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าออกครั้งเดียว หรือหลายครั้งก็ได้ ผู้ที่ถือวีซ่าประเภทนี้สามารถเดินทางได้ 26 ประเทศในกลุ่มเช็งเก็น
วีซ่าประเภทนี้ยังรวมถึงผู้จะไปอบรมระยะสั้น ประชุม ฝึกงาน หรือสำหรับการต่อเครื่องที่ฝรั่งเศสเพื่อเดินทางไปยังประเทศอื่นที่นอกเหนือจากกลุ่มเช็งเก็น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้สำหรับผู้ที่ต้องการไปทำงานที่ประเทศฝรั่งเศสน้อยกว่า 3 เดือน
ถ้าจุดประสงค์ในการเดินทางของท่านคือเพื่อการเปลี่ยนเครื่องเท่านั้น ท่านสามารถหาข้อมูลได้ตามลิงค์นี้http://www.diplomatie.gouv.fr/en/france/coming-to-france/getting-a-visa/article/what-type-of-visa-do-i-need-to
แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าระยะสั้นสามารถใช้ได้กับวีซ่าระยะสั้นทุกประเภท ต่างกันเพียงเอกสารที่ใช้ยื่นตามแต่ละประเภทของวีซ่า
ข) สำหรับการเดินทางมากกว่า 90 วัน ท่านต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าระยะยาว ประเภทของวีซ่าระยะยาวที่ร้องขอ จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาและเหตุผลในการเดินทาง
ตามกฎระเบียบของประเทศฝรั่งเศส (ว่าด้วยเรื่องการเดินทางเข้าประเทศ และพำนักอยู่ของชาวต่างชาติ และสิทธิ์ในการลี้ภัย) อนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถพำนักอยู่ในประเทศฝรั่งเศสได้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน
ระหว่างการเดินทาง ผู้ที่ถือวีซ่าระยะยาวสามารถเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศอื่นในกลุ่มเช็งเก็นได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เดินทางไปยังประเทศอื่นในกลุ่มเช็งเก็นระหว่างที่วีซ่ามีอายุอยู่
1/ วีซ่าระยะยาว ประเภท valant titre de séjour (VLS-TS)
วีซ่าประเภทนี้อนุญาตให้พำนักอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเป็นระยะเวลาสูงสุดถึง 1 ปี ได้แก่ วีซ่านักเรียน วีซ่าเยี่ยมเยือนระยะยาว วีซ่าทำงานบางประเภท วีซ่าตั้งถิ่นฐานของคู่สมรสของชาวฝรั่งเศส วีซ่าคู่สมรสประเภทติดตามครอบครัว ฝึกงาน และนักวิจัย เป็นต้น เมื่อเดินทางถึงประเทศฝรั่งเศสแล้ว ผู้ที่ถือวีซ่าประเภทนี้ จะต้องทำการลงทะเบียนที่หน่วยงาน OFII ณ เมืองที่ท่านมีถิ่นพำนัก รวมถึงการชำระค่าธรรมเนียมภาษี OFII (นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2556 ท่านจะต้องชำระค่าธรรมเนียมนี้เมื่อท่านยื่นคำร้องขอวีซ่า) และจะต้องไปดำเนินการตรวจสุขภาพตามที่กำหนด ถ้าท่านประสงค์จะพำนักอยู่ในประเทศฝรั่งเศสมากกว่า 1 ปี ท่านจะต้องไปติดต่อหน่วยงาน Préfecture ณ เมืองที่ท่านมีถิ่นพำนัก เพื่อขออนุญาตอยู่ต่อ ภายใน 2 เดือน ก่อนที่วีซ่าหมดอายุ
การอนุมัติวีซ่าระยะยาวสำหรับคู่สมรสชาวฝรั่งเศส และผู้ที่ขอวีซ่าติดตามครอบครัว (ดำเนินเรื่องผ่านหน่วยงาน OFII ) ที่อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป จะต้องสอบวัดระดับความรู้ภาษาฝรั่งเศส และความรู้ทั่วไป
- คู่สมรสของชาวฝรั่งเศส และผู้ที่ยื่นวีซ่าติดตามครอบครัวที่อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป จะต้องทำการยื่นคำร้องขอ วีซ่าที่ TLScontact โดยผ่านการนัดหมาย 
หลังจากที่ยื่นคำร้องแล้ว ท่านจะได้รับการติดต่อจากสมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ เพื่อทำการสอบวัดระดับความรู้ภาษาฝรั่งเศสและความรู้ทั่วไป
สมาคมฝรั่งเศส
179 ถนนวิทยุ
ลุมพินี ปทุมวัน
กรุงเทพฯ 10330
โทรศัพท์ 02 670 42 00
โทรสาร 02 670 42 70
อีเมล ofii.bangkok@alliance-francaise.or.th
โดยจะทำการสอบวัดระดับระหว่างวันอังคารถึงวันพฤหัส ตั้งแต่เวลา 14 นาฬิกา
สำหรับผู้ที่ไม่ผ่านการสอบวัดระดับ ท่านจะต้องเข้ารับการอบรมภาษาฝรั่งเศส เป็นระยะเวลา 40 ชั่วโมง และอบรมความรู้ทั่วไป เป็นเวลาครึ่งวัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
2/ วีซ่าที่ระบุคำว่า “ carte de séjour à solliciter”
ถ้าวีซ่าที่ท่านได้รับระบุว่า carte de séjour à solliciter ท่านจะต้องติดต่อหน่วยงาน préfecture ณ เมืองที่ท่านมีถิ่นพำนักทันทีที่ไปถึงเพื่อดำเนินเรื่องขอใบสำคัญถิ่นที่อยู่
สำหรับวีซ่าทำงาน ผู้ว่าจ้างจะต้องนำสัญญาการจ้างงานของผู้ร้องขอไปทำการรับรองที่หน่วยงาน Direction Régionale des Entreprises, de la Concurrence, de la Consommation, du Travail et de l’Emploi (DIRECCTE) ก่อนการยื่นคำร้องขอวีซ่า กฎระเบียบนี้รวมถึงศิลปิน นักแสดง และนักกีฬาอาชีพ
  • คำถาม

ถ้าท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของ TLScontact /
การทำการนัดหมาย/
ประเภทวีซ่าที่ต้องสมัคร/
คำถามทั่วไป/
ท่านสามารถติดต่อศูนย์บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ของ TLScontact ได้ที่หมายเลย 02 696 3888 ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ระหว่างเวลา 8.30 น.– 16.30 น. หรือส่งอีเมลที่ contact.th@tlscontact.com
สำหรับคำถามอื่น ๆ ท่านสามารถติดต่อผ่านทางอีเมลของแผนกวีซ่า สถานทูตฝรั่งเศส visas@ambafrance-th.org
สถานทูตจะไม่ตอบคำถามใดใดเกี่ยวกับสถานะการยื่นคำร้องขอวีซ่าของท่าน

เงินตราฝรั่งเศส

เงินตราฝรั่งเศส : สกุลยูโร (€)

เหรียญ 1€ =100 Cents
money11

 money2
money3
corn






ข้อมูลประเทศฝรั่งเศส

ประเทศฝรั่งเศส (France)


พื้นที่
ฝรั่งเศสมีพื้นที่ 550,000 ตารางกิโลเมตร นับเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก (ประมาณเกือบหนึ่งในห้าของพื้นที่ของสหภาพยุโรป) อีกทั้งยังมีพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่กินอาณาบริเวณกว้างขวาง (เขตเศรษฐกิจจำเพาะมีพื้นที่ทั้งสิ้น 11 ล้านตารางกิโลเมตร)
 ภูมิประเทศ
พื้นที่ประมาณสองในสามของประเทศฝรั่งเศสเป็นที่ราบ เทือกเขาที่สำคัญได้แก่ เทือกเขาแอล์ปซึ่งมียอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป คือ ยอดเขามงต์บลองก์ (Mont-Blanc) สูง 4,807 เมตร เทือกเขาปิเรเนส์ เทือกเขาจูรา เทือกเขาอาร์แดนส์ เทือกเขามาสซิฟ ซองทราลและเทือกเขาโวจช์ ประเทศฝรั่งเศสมีชายฝั่งทะเลอยู่ถึง 4 ด้าน คิดเป็นความยาวรวมทั้งสิ้น 5,500 กิโลเมตร (ทะเลเหนือ ช่องแคบอังกฤษ มหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน)
 ภูมิอากาศ
มี 3 แบบคือ
  1. แบบชายฝั่งทะเลตะวันตก (บริเวณตะวันตกของประเทศ)
  2. แบบเมดิเตอร์เรเนียน (ทางตอนใต้ของประเทศ)
  3. แบบภาคพื้นทวีป (ทางตอนกลางและภาคตะวันออกของประเทศ)
สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
พื้นที่เกษตรกรรมและทำป่าไม้มีประมาณ 48 ล้านเฮกตาร์ คิดเป็นร้อยละ 82 ของพื้นที่โดยรวมทั้งประเทศ (เฉพาะฝรั่งเศสส่วนภาคพื้นทวีป)
พื้นที่ป่ามีประมาณร้อยละ 30 และนับว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหภาพยุโรปรองจากสวีเดนและฟินแลนด์ ตั้งแต่ปี 1945 พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 และถ้าพูดถึงในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา นับว่าเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว
ฝรั่งเศสมีความแตกต่างไปจากประเทศอื่นๆในยุโรปเพราะมีพันธุ์ไม้มากถึง 136 ชนิด ในส่วนของสัตว์ใหญ่ก็เพิ่มจำนวนขึ้น ภายในช่วงระยะเวลา 20 ปี จำนวนของสัตว์ประเภทกวางเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่า
ประเทศฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับมรดกทางธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ จึงได้มีการจัดตั้ง
  • อุทยานแห่งชาติ 7 แห่ง
  • ป่าสงวน 156 แห่ง
  • เขตรักษาพันธุ์พืชและสัตว์ป่า 516 แห่ง
  • รวมทั้งประกาศให้พื้นที่อีก 429 แห่งเป็นเขตอนุรักษ์อยู่ภายใต้การดูแลของสถาบันอนุรักษ์ชายฝั่งทะเล
  • นอกจากนี้ยังมีอุทยานธรรมชาติตามภูมิภาคต่างๆ อีกกว่า 37 แห่งซึ่งกินพื้นที่กว่าร้อยละ 7 ของประเทศ
งบประมาณจำนวน 32 พันล้านยูโรได้รับการจัดสรรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเมื่อคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อประชากรจะเท่ากับ 516 ยูโร ทั้งนี้ 3 ส่วน 4 ของเงินข้างต้นจะเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องของการบำบัดน้ำเสียและการจัดการของเสียต่างๆ
ในระดับนานาชาติ ฝรั่งเศสเป็นภาคีของสนธิสัญญาและอนุสัญญาทางด้านสิ่งแวดล้อมหลายฉบับ รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพและการแปรสภาพเป็นทะเลทราย
เพลงชาติและคำขวัญ
ลา มาร์เซยแยส (La Marseillaise) เป็นเพลงชาติของฝรั่งเศสมาตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 1795 แต่เดิมเพลงนี้มีชื่อว่า Chant de guerre pour l’armée du Rhin ซึ่งประพันธ์ขึ้นที่เมืองสตราสบูรก์เมื่อปี 1792 คำขวัญของสาธารณรัฐฝรั่งเศสคือเสรีภาพ เสมอภาคและภราดรภาพ
 ธงชาติของฝรั่งเศส



วันคริสต์มาส

แต่เดิมสีน้ำเงินแดงเป็นสัญลักษณ์ของกองกำลังรักษากรุงปารีส ต่อมาในปี 1789 นายพลลาฟาแยตต์เพิ่มสีขาวอันเป็นสัญลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์ นับแต่นั้นมาสีน้ำเงินขาวแดงจึงเป็นสีของธงชาติและกลายเป็นสัญลักษณ์ของสาธารณรัฐฝรั่งเศส
วันชาติ
14 กรกฎาคม
 ประชากร
  • ประชากรจำนวน 62.2 ล้านคน (ปี 2005)
  • ความหนาแน่นของประชากร 96 คนต่อตารางกิโลเมตร
  • เมืองมีประชากรมากกว่า 100,000 คนมีถึง 57 เมือง
  • เมืองที่มีประชากรมากที่สุดห้าอันดับแรกคือ

t1


สาธารณรัฐฝรั่งเศสประกอบด้วย
  • ส่วนที่อยู่บนภาคพื้นทวีป
  • จังหวัดโพ้นทะเล (DOM) 4 จังหวัดได้แก่ กัวเดอลูป มาร์ตินิก เฟรนช์เกียนาและลา เรอูนียง
  • ดินแดนโพ้นทะเล (TOM) 5 แห่งได้แก่ เฟรนช์ โปลิเนเซีย, วาลลิสและฟูตูนา, มายอตต์, แซงต์-ปิแอร์-เอต์-มิเกอล็ง, เฟรนช์ เซาเทิร์นและแอนตาร์กติก แทร์ริทอร์รีส์
  • ดินแดนที่มีสถานภาพพิเศษอีก 1 แห่งคือ นิวแคลิโดเนีย
ประเทศฝรั่งเศส แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
  1. เทศบาล เป็นองค์การปกครองส่วนที่เล็กที่สุด จำนวนประมาณ 37,000 communes
  2. จังหวัด เป็นองค์การปกครองขนาดกลาง ในฝรั่งเศสมีจำนวนประมาณ 100 département ซึ่งรวมถึงดินแดนโพ้นทะเล 4 แห่ง คือ Martinique, Guadeloupe, Réunion และ French Guyana
  3. มณฑล เป็นองค์การปกครองที่ใหญ่ที่สุด ประเทศฝรั่งเศสมีทั้งสิ้น 13 แคว้น (regions) ได้แก่
    1. Alsace-Champagne-Ardenne-Lorraine
    2. Aquitaine-Limousin-Poitou-Charentes
    3. Auvergne-Rhône-Alpes
    4. Bourgogne-Franche-Comté
    5. Brittany
    6. Centre-Val de Loire
    7. Île-de-France
    8. Languedoc-Roussillon-Midi-Pyrénées
    9. Nord-Pas-de-Calais-Picardy
    10. Normandy
    11. Pays de la Loire
    12. Provence-Alpes-Côte d’Azur
    13. Corsica

13600367_805254642909901_3032268999223901277_n